นโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด มหาชน

(Privacy Policy)

บริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งต่อไปใบประกาศนี้เรียกว่า “บริษัท” โดยบริษัทยึดมั่น การดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณ เคารพ และปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้และตระหนักถึงการได้รับความ ไว้วางใจจากท่านที่ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท บริษัทเข้าใจดีว่าท่านต้องการความปลอดภัยในการทำ ธุรกรรมและการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

ดังนั้น บริษัทจึงให้ความสำคัญด้านการเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวของท่านและการรักษาความ ปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการ ดำเนินงานงานของบริษัทด้วยมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ท่าน ได้มั่นใจว่า ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับจะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการของท่านและถูกต้องตามกฎหมาย

1. นโยบายฉบับนี้มีขึ้นเพื่ออะไร

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ จัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียดและวิธีการจัดการและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท ได้รับมาจากท่าน วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และประมวลผล ตลอดจนระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวและสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

2. ข้อมูลส่วนบุคคล

2.1 ข้อมูลส่วนบุคคล คือ ข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย เช่น

ㆍข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด เพศ เลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง

ㆍ ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัย สถานที่ทำงาน ที่อยู่ที่ติดต่อ (สำหรับกรณีต่างจากที่อยู่อาศัย) หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ไอดีไลน์บัญชีสื่อสังคม (Social Media Accounts)

ㆍ ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP address, MAC address,Cookie ID

ㆍ ข้อมูลอื่นๆ เช่น การใช้งานเว็บไซต์ เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวและข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใด้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

2.1.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทโดยตรง หรือให้ผ่านบริษัทหรือมีอยู่กับบริษัททั้งที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านช่องทางดิจิทัล เว็บไซต์ Call Center ผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือช่องทางอื่นใด

2.1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากท่านโดยดรง เช่น หน่วยงานของรัฐ สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการทางการเงิน พันธมิดรทางธุรกิจ บริษัทข้อมูลเครดิด และผู้ให้บริการข้อมูล เป็นตัน ซึ่งบริษัทจะเก็บราบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่นต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน ตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่บริษัทมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมายอนุญาต

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) คือ ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนดเป็นการเฉพาะ ซึ่งบริษัทจะเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ต่อเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นตามกรณีที่กฎหมาย อนุญาต โดยบริษัทอาจต้องเก็บรวบรวม ใช้ (ต่อไปใน นโยบายฉบับนี้หากไม่กล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวที่เกี่ยวกับท่านข้างต้น รวมกันว่า”ข้อมูลส่วนบุคคล”)

3.การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัด

3.1 การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำโดยมีวัตถุประสงค์ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม ในการเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล ดลอดจนเก็บรวมรวม และจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการ หรือบริการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใด ภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น ทั้งนี้ หรือโดยผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวมถึงข้อมูลดังต่อไปนี้:

ㆍ ข้อมูลส่วนบุคคล (ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชนหมายเลขหนังสือเดินทาง เพศ )

ㆍ ข้อมูลการติดต่อ (ชื่อ นามสกุล ที่อยู่อีเมล เบอร์โทรศัพท์)

ㆍ ข้อมูลคู่ค้า (เลขประจำตัวประชาชน. ที่อยู่ และอีเมล)

ㆍ ข้อมูลที่ท่านให้กับบริษัท ตัวอย่างเช่น ข้อมูลในการกรอกแบบฟอร์ม หรือข้อมูลระหว่าง เข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท หรือจากการตอบคำถามระหว่างการสนทนา หรือในการทำแบบส่ารวจ

ㆍ ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและการให้บริการของบริษัท

ㆍข้อมูลอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลให้เพื่อที่จะเข้าร่วมกิจกรรม โปรโมชั่นงานแสดงสินค้า และกิจกรรมใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลที่กรอกใน “ติดต่อเรา” (“Contact Us”)หรือในช่องทางอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน

ㆍ ข้อมูลที่รวบรวมโดยระบบในคอมพิวเดอร์(Cookics) และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน รวมถึงข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ (IP Address) ซึ่งข้อมูลประเภทนี้จะถูกรวบรวมในขณะที่ใช้แพลดฟอร์มออนไลน์

ㆍข้อมูลพฤดิกรรมการสืบค้น หมายถึง ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องต่อบุคคลธรรมดาที่ระบุตัวตนได้เช่น ประเภทเบราเซอร์ โดเมน เว็บไซต์ที่เยี่ยมชม เวลาเข้าเว็บไซต์ ที่อยู่เว็บไซต์อ้างอิงข้อมูลเพื่อการสนับสนุนลูกค้า โดยจะมีการเก็บ log การใช้งานของท่านจากบน แอพพลิเคชั่นของทางบริษัทข้อมูลส่วนบุคคลที่ทางบริษัทดำเนินการจัดเก็บผ่านทางช่องทางในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ต่างๆ เช่น การลงทะเบียนเข้าใช้งาน หรือการติดต่อต่างๆ ผ่านช่องทาง Social Media ของบริษัท โดยจะ เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวตนของท่านและข้อมูลการติดต่อ หรือข้อมูลอื่นใด ที่จะเป็นประโยชน์ในการ ให้บริการ บริษัทอาจมีการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวของท่าน ผ่านการทำแบบสอบถาม (SURVEY) ซึ่งข้อมูลส่วนตัวของท่านรวมถึงข้อมูลต่างๆ ดังต่อไปนี้ เช่น ชื่อ-นามสกุล, เบอร์โทรศัพท์, วันเกิด, เพศ เป็นต้น ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวข้างต้น บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อนท าการเก็บรวบรวม เว้นแด่

ㆍ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับ (Legal Obligation) เพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขดที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล (Legitimate Interest)

(1) การบันทึกเสียงทาง Call Center การบันทึกภาพ CCTV

(2) การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การจัดการ ข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลลูกค้า โดยพนักงานของบริษัท

(3) การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทน ของลูกค้านิติบุคคล

(4) การติดต่อ การบันทึกภาพ การบันทึกเสียงเกี่ยวกับการจัดประชุม อบรม สันทนาการหรือออกบูธ

(5) การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์

(6) การรับ-ส่งพัสดุ

ㆍเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (Vital Interest)

ㆍ เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติดามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช่ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น (Contractual Basis)

ㆍเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม(Historical Document, Research, or Statistics)

3.2 หากเป็นกรณีที่ผู้เยาว์(บุคคคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์) คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ประสงค์จะให้บริษัทจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ แยกพิจารณาเป็นดังนี้

3.2.1 ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี)เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนดให้สามารถด่าเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม โดยบริษัทอาจประมวลผลข้อมูลของคุณ

เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์ในการใช้บริการดามที่คุณที่คุณให้ความยินยอมไว้ ซึ่ง บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคคลดังกล่าว โดยคำนึงถึงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสูงสุดโดยมีเงื่อนไข ดังนี้

ㆍ ผู้เยาว์ หมายถึง บุคคลซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งสามารถดำเนินการที่สมแก่ฐานานรูปได้ด้วยตนเอง ที่เป็นประโยชน์กับผู้เยาว์ การเป็นลูกจ้างในสัญญาจ้างแรงงาน ในความเกี่ยวพันกับการประกอบ ธุรกิจ หรือในกิจการใดที่ผู้เยาว์สามารถกระทำได้เองหรือที่ผู้เยาว์มีฐานะเสมือนดังดังบุคคลซึ่งบรรลุนิติภาวะแล้ว โดยในการให้ความยินยอมใดๆ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีฐานะเสมือนเป็นผู้บรรลุนิติภาวะสามารถให้ความยินยอมได้ด้วยตนเอง เว้นแต่เป็นกรณีที่นี่ที่มีกฎหมายกำหนดให้ความยินยอมบางอย่าง จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์ด้วย และในกรณีที่ผู้เยาว์อายุไม่เกิน 10 ปี ต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองนั้นโดยดรง

ㆍ คนเสมือนไร้ความสามารถ หมายถึง บุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ เนื่องจากมีกายพิการ หรือมีจิตฟันเฟือนไม่สมประกอบ หรือประพฤติสุรุ่ยสุร่ายเสเพลเป็นอาจิณ หรือติด สุรายาเมา หรือมีเหตุอื่นใดทำนองเดียวกันนั้น จนไม่สามารถจะจัดทำการงานโดยตนเองได้ หรือจัดกิจการไปในทางที่อาจจะเสื่อมเสียแก่ทรัพย์สินของตนเองหรือครอบครัว ทั้งนี้ ในการให้ความยินยอมใด ๆ จะต้อง ได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ที่มีอำนาจกระทำการแทนคนคนเสมือนไร้ความสามารถนั้นก่อน เว้นแต่เป็นกรณีที่มีที่มีกฎหมายกำหนดให้ความยินยอมบางอย่าง ไม่ต้องได้รับความยิ้นยอมจากผู้พิทักษ์ก่อน

ㆍคนไร้ความสามารถ หมายถึง บุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ เนื่องจากเป็นบุคคลวิกลจริต ทั้งนี้ ในการให้ความยินยอมใดๆ จะต้องได้รับความยินยอมจากผู้อนุบาลที่มีอำนาจกระทำการ แทนคนไร้ความสามามารถนั้นก่อน

3.2.2 กรณีที่ต้องขอความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาลหรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) บริษัทจะขอความยินยอมจากผู้ใช้อ่านาจปกครองนั้นโดยตรง และให้บุคคลผู้มีอำนาจปกครอง เหล่านั้นเป็นผู้ดำเนินการแทนเท่านั้น ซึ่งบริษัทเชื่อโดยสุจริตว่าข้อมูลที่บริษัทได้รับจากบุคคลเหล่านั้นเป็นข้อมูลที่บริษัทมีสิทธิประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและบุคคลเหล่านั้นมีสิทธิเปิดเผยให้แก่บริษัทได้ โดย บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอน ที่ระบุในประกาศความเป็นส่วนตัวตามประเภทของกิจกรรม

4. บริษัทให้รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

บริษัทรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรงจากหลายแหล่งที่มาของข้อมูล ได้แก่

ㆍ แพลตฟอร์มออนไลน์ บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อท่านลงทะเบียน บัญชีในระบบอินเทอร์เน็ต การทำแบบสำรวจการจัดกิจกรรม หรือการกรอกข้อมูลเพื่อรับข้อเสนอโปรโมชั่น การกดติดตามเพื่อรับข้อมูลการส่งเสริมการขาย หรือเพื่อเชื่อมต่อกับบริษัท

ㆍ การโต้ตอบสื่อสารออฟไลน์ บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากทางออฟไลน์ เช่น เมื่อท่านเข้ามาในสำนักงานของบริษัท เมื่อมีการติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์ หรือเมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท หรือการให้นามบัตร

ㆍในกรณีที่บริษัทเข้าทำสัญญากับท่าน นอกจากนี้ บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงแหล่งข้อมูลที่เปิดเผยแบบสาธารณะ พันธมิดรทางธุรกิจของบริษัท บุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูล (ยกตัวอย่างเช่น ผู้ให้บริการรายอื่นที่ให้บริการเจ้าของข้อมูล)
ㆍข้อมูลส่วนบุคคลจากบคคลที่สาม เช่น ตัวแทน ร้านค้า หรือบริษัท
ที่ให้การบริการจัดเก็บรวมรวมข้อมูล คู่ค้า พันธมิดร เป็นต้น
ㆍ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบริษัทในเครือ

5.วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ เผยแพร่ ประมวลผล โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในการเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทอาจเก็บรวบรวม ใช้ประมวลผล โอน หรือ เปิดเผยข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

5.1 เพื่อจัดหาสินค้าหรือให้บริการแก่ท่าน
5.2 เพื่อการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่าน
5.3 เพื่อการติดต่อสื่อสาร แจ้ง และ/หรือ รับข้อมูลฆ่าวสารต่าง ๆจากบริษัท หรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นของบริษัท
5.4 เพื่อการดำเนินการตามความประสงค์ของท่านที่ได้แจ้งไว้กับบริษัท
5.5 เพื่อการนำเสนอสิทธิประโยชน์ต่างๆ และ/หรือ บริการอื่นๆ ของบริษัท อาทิ การให้คำแนะนำและ/หรือ ข้อเสนอเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการ รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ ในการส่งเสริม กิจกรรมทางการดลาด รวมถึง การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของบริษัท
5.6 เพื่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การตรวจสอบ การพัฒนา ผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการบริการ การวิเคราะห์การใช้งานด้านบริการ การสำรวจการ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การพิจารณาการดำเนินงานและขยายธุรกิจของบริษัท
5.7 เพื่อการจัดทำฐานข้อมูลและประวัติการเข้าซื้อผลิดภัณฑ์และใช้บริการของทางบริษัท
5.8 เพื่อศึกษาและรับทรามข้อมูลสถิติทางประชากรศาสตร์ของผู้ใช้บริการ เพื่อให้บริษัท รู้จักผู้ใช้บริการบนเว็บไซต์ช่องทางออนไลน์ และแอพพลิเคชันของบริษัทมากยิ่งขึ้น
5.9 เพื่อวิเคราะห์และประมวลผลจากประวัติการเยี่ยมชมเว็ปไซต์หรือช่องทางต่างๆ ของ บริษัท ร่วมกับประวัติการสืบค้นเนื้อหาภายในเว็ปไซต์หรือช่องทางออนไลน์ของบริษัทของผู้ใช้บริการเพื่อนำเสนอเนื้อหารายการที่คาดว่าจะถูกใจหรือเป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้บริการ
5.10 เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ช่องทางออนไลน์ และแอพพลิเคชั่นของบริษัท ให้ เหมาะสมกับความต้องการผู้ใช้บริการและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

5.11 เพื่อเป็นช่องทางติดต่อในการรับข้อติชม ข้อเสนอแนะ เพื่อนำมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และการบริหาร ให้ตรงดามความต้องการของลูกค้า
5.12 เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อลูกค้าที่รวมสนุกส่าหรับกิจกรรมชิงรางวัลของที่ระลึกจากบริษัท
5.13 เพื่อโต้ตอบการสอบถามหรือการร้องเรียนของท่าน และเพื่อแก้ปัญหาและข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อกับบริษัท
5.14 เพื่อให้บริการ หรือให้การช่วยเหลือดามที่ท่านร้องขอ
5.15 เพื่อวัดถุประสงค์ในการทำการตลาดโดยตรง ผ่าน อีเมล สื่อสังคมออนไลน์ (SocialMedia) และ/หรือ ช่องทางการติดต่ออื่นๆในกรณีที่ท่านเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกิจกรรมต่าง ของบริษัท และวิธีการอื่นใดตามที่ท่านยินยอม
5.16 เพื่อแบ่งปันข้อมูลส่วนนคคลของท่านกัมผู้สอบบัญชีสาหรับการตรวจสอบและการรายงานบัญชีภายในของบริษัท
5.17 เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด เช่น เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องการ รายงานงบการเงินของบริษัท ที่กำหนดโดยผู้สอบบัญชี และ/หรือหน่วยงานของรัฐ และเพื่อให้ความร่วมมือ กับเจ้าพนักงานที่บังคับใช้กฎหมาย หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล และ/หรือ คำสั่งศาลที่ เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาคดีหรือการสืบสวนในคดี
5.18 เพื่อแปงปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้ร่วมธรกิจของบริษัท เพื่อการพัฒนาสินค้าและ/หรือ บริการ หรือการจัดทำแคมเปญส่งเสริมการขายร่วมกัน
5.19 เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติดามหน้าที่ของบริษัทและสามารถบังคับตามสิทธิที่บริษัทมี ตามสัญญา หรือเอกสารใดๆ ที่บริษัทเป็นคู่สัญญา
5.20 เพื่อบังคับตามสิทธิ หรือปกป้องสิทธิของบริษัทหรือสิทธิของท่าน โดยให้สอดคล้องกับ หน้าที่ของบริษัทภายใต้กฎหมายกฎ และข้อบังคับที่บังคับใช้วัตถุประสงค์ในการที่บริษัทอาจหรือจะทำการรวบรวม น่าไปใช้ เปิดเผย หรือดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ โดยวัตถุประสงค์ดังกล่าว อาจไม่ถูกระบุอยู่ใน
ข้อกำหนดข้างต้น อย่างไรก็ตาม บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์นั้นๆ เมื่อ บริษัทได้รับความยินยอมจากท่านสำหรับการดำเนินการดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่กฎหมายอนุญาตให้บริษัท ดไเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได่โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อนบ้าง

6. บริษัท อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ใครบ้าง

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้ หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าวจะเก็บ รวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขดที่ เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือฐานทาง กฎหมายอื่นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ เช่น ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล พันธมิดรทาง ธุรกิจ ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทนของบริษัท ผู้รับจ้างช่วงงานต่อ สถาบันการเงิน ผู้สอบบัญชี ผู้ตรวจสอบ ภายนอก ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย นิติบุคคลหรือบุคคลใดๆ ที่มีความสัมพันธ์หรือมีสัญญาอยู่กับบริษัท ซึ่ง รวมตลอดถึง ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบริษัทและของบุคคลหรือหน่วยงาน ที่เป็นผู้รับข้อมูลดังกล่าว

7. บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าใด

บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดราบเท่าที่จำที่จำเป็น โดยคำนึงถึงถึงวัตถุประสงค์และความจำเป็นที่ บริษัทจะต้องดำเนินการจัดเก็บรวบรวมและประมวลผล ซึ่งรวมไปถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย ที่ใช้บังคับในเรื่องดังกล่าว บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลังระยะเวลาที่สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับ บริษัทสิ้นผลบังคับระยะเวลาหนึ่ง และสอดคล้องตามระยะเวลาและอายุความของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะจัดเก็บไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมดามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บริษัทจำเป็นต้องเก็บ ข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปแม้จะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้วก็ตาม เช่น กรณีอยู่ระหว่างการ ดำเนินคดีหรือพิจารณาคดีตามกฎหมาย เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตราการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard)มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และ มาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical seguard) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม หมายความว่า มีการธำรงไว้ซึ่งความลับ (confidentiality) ความถูกต้อง ครบถ้วน (integrity) และให้ข้อมูลอยู่ในลักษณะที่พร้อมใช้งาน (availability) และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัท ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัท ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอ่านาจหรือโดยไม่ชอบ และบริษัทได้มีการ ปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม

8. บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตราการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative saleguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการ ป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภันการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมและเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และ หลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูล ไปจากบริษัทใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มี อ่านาจหรือโดยไม่ชอบ และบริษัทได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ ดามความจำเป็นและเหมาะสมนอกจากนี้ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้รับข้อมูลจากบริษัทมีหน้าที่ต้องรักษาความลับข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการรักษาความลับที่บริษัทกำหนดขึ้น

9. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลมีอะไรบ้าง

สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ทำนควรหราย โดยทำนสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเดิมในอนาคด ดลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนดขึ้น และในกรณีท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หรือถูกจ่ากัด ความสามารถในการทำนิติกรรมตามกฎหมาย ท่านสามารถขอใช้สิทธิโดยให้บิดาและมารดา ผู้ใช้อำนาจ ปกครอง หรือมีผู้อำนาจกระทำการแทนเป็นผู้แจ้งความประสงค์

9.1 สิทธิขอถอนความยินยอม : หากท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และ/ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัท เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้น โดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ ท่านอยู่ทั้งนี้ การถอนความยืนยอมของท่านอาจส่งผลกระทบต่อท่านจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ:’หรือ บริการต่างๆ เช่น ท่านจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่นหรือข้อเสนอใหม่ๆ ไม่ได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน หรือไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์แก่ ท่าน เป็นต้น เพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนเพิกถอนความยินยอม

9.2 สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความ รับผิดชอบของบริษัทและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร

9.3 สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้ จัดท่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้ โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัดโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัท ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วย วิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไป ยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิคทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไดให้ความยินยอมแก่ บริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ และ หรือเปิดเผย หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือเปิดเผยเพื่อให้ท่านสามารถใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทได้ตามความประสงค์ซึ่งท่าน เป็นคู่สัญญาอยู่กับบริษัท หรือเพื่อใช่ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ของบริษัท หรือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอื่นตามที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายกำหนด

9.4 สิทธิขอตัดค้าน : ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วน บุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้น เพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคล อื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อ สาธารณประโยชน์ หากท่านยื่นคัดค้านบริษัทจะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปเฉพาะที่บริษัทสามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิ ชั้นพื้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันสิทธิดามกฎหมาย การปฏิบัติตามกฎหมายหรือการต่อสู้ใน การฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณีนอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านที่ทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาด หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้อีกด้วย

9.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ถูกเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความ จำเป็นในการเก็บรักษาไว้ดามวัตถุประสงค์ทีเกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอน ความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

9.6 สิทธิขอให้ระงับกำรใช้ข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวใน กรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก่ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่ เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน

9.7 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล : ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

9.8 สิทธิร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจดามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่า การเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ ปฏิบัติดามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

9.9 การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัด ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมี บางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพ ของบุคคลอื่นเป็นต้น หากบริษัทปฏิเสธ คำขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบ ด้วย

10. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทได้มีการดำเนินการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดย แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DataProtection Officer : DPO) เพื่อดราจสอบการดำเนินการ ของบริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวมใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทได้จัดทำระเบียบ คำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินงาน ตามแนวนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปด้วยความถูกต้องเรียบร้อย และมี ประสิทธิภาพ

11. ท่านติดต่อบริษัทได้อย่างไร

“บริษัท” ถือว่าเป็นผู้ควบคุมข้อมูลภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หาก ท่านมีคำถามใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามที่อยู่ดังต่อไปนี้ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัท เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซึ่ง จำกัด (มหาชน) 70 ม.5 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 12150 อีเมล์ : dpo@ncgroup.co.th

อ่านรายละเอียด
Asian women working in the office, young Asian business women as business executives.
การใช้สิทธิ์ความเป็นส่วนตัว

หากท่านประสงค์ยื่นคำร้องเพื่อใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล
กรุณาระบุรายละเอียดใน แบบฟอร์มการขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ได้ที่ลิงก์นี้ :  ยื่นคำร้องเพื่อขอใช้สิทธิเจ้าของข้อมูล

หากมีข้อสงสัย หรือข้อคำถามเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลท่านสามารถติดต่อ ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้

บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน)
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO)

70 ม.5 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 12150
โทรศัพท์ : 0-2993-5080-7
อีเมล : dpo@ncgroup.co.th

Compare listings

เปรียบเทียบ